เด็กไทยไอเดียเจ๋ง คว้า 2 รางวัลชนะเลิศในงาน Young Makers Contest ปี 3 จากการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์เพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ได้แก่ เครื่องยนต์กำจัดขยะคราบน้ำมันในแม่น้ำลำคลองโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และเครื่องล้างทำความสะอาดหอยนางรมเพื่อกำจัดแบคทีเรีย แก้ปัญหาท้องเสียจากการกินสด
เมื่อเร็วๆนี้ ทีมข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน Energy News Center – ENC ได้มีโอกาสไปร่วมงาน “Maker Faire Bangkok 2019: We Are All Makers ปล่อยพลังเมกเกอร์ในตัวคุณ” ซึ่ง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตรและกลุ่มเมกเกอร์ในประเทศไทย ร่วมกันจัดขึ้น ซึ่งเป็นการรวบรวมผลงานของสุดยอดนักประดิษฐ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาจัดแสดง เพื่อจุดประกายความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับคนไทย และสานต่อไปสู่การเป็นประเทศแห่ง นักพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ เมกเกอร์เนชั่น ตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 โดยงานจัดขึ้น ณ ลานหน้าศูนย์การค้า The Street รัชดา และเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรีตลอดทั้งงาน
งานนี้ได้รับความสนใจไม่น้อย เพราะถือเป็นเมกเกอร์แฟร์ที่ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีบูธแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์ที่มาจากพลังไอเดียของเหล่าเมกเกอร์ทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 70 บูธ อาทิ ผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ สิ่งประดิษฐ์หุ่นยนต์ ของเล่นอินเตอร์แอคทีฟ รวมทั้งกิจกรรมเวิร์กช็อป DIY มากมาย โดยประมาณการณ์ว่ามีชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 1 หมื่นคน
บรรยากาศภายในงานค่อนข้างคึกคัก มีกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมจัดบูธแสดงผลงานและเข้ามาร่วมชมผลงาน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้าออกอย่างเข้มงวด มีพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากพาบุตรหลานมางานดังกล่าวโดยตรง เนื่องจากเห็นว่าจะช่วยเปิดโลกทัศน์และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็ก ผู้ปกครองบางคนที่เดินทางมาทำธุระที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ พอเห็นมีการจัดงาน ก็ได้ถือโอกาสพาบุตรหลานเข้าชมงานและร่วมกิจกรรมในบูธต่างๆ และต่างสอบถามรายละเอียดของนวัตกรรมที่จัดแสดงในแต่ละบูธด้วยความสนใจ ซึ่งน่าดีใจเป็นอย่างยิ่งที่เยาวชนไทยและผู้ปกครอง ให้ความสนใจงานที่ให้สาระความรู้และเป็นประโยชน์ในการพัฒนาความสามารถและความคิดสร้างสรรค์เช่นนี้
โครงการ Enjoy Science: Young Makers Contest ปี 3
ในงานนี้นอกจากการแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ แล้ว ยังมีการประกาศผลการประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อโลกสีเขียวของนักเรียนสายสามัญและอาชีวะ ในโครงการ Enjoy Science: Young Makers Contest ปี 3 ด้วย ซึ่งในปีนี้ มีผลงานส่งเข้าประกวดจากเยาวชนไทยและต่างชาติรวมทั้งสิ้น 339 ผลงาน และน่ายินดียิ่งที่ผลงานอันโดดเด่นของเยาวชนไทยสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ทั้งสายสามัญและอาชีวะ
หุ่นยนต์พลังโซลาร์ขจัดคราบสกปรกบนผิวน้ำ คว้าชนะเลิศสายสามัญ
สำหรับผลงานที่ชนะเลิศในระดับสายสามัญ คือ หุ่นยนต์ขจัดคราบสกปรกบนผิวน้ำ โดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน สตรีพัทลุง จากทีมงานที่มีทั้งสิ้น 3 คน ได้แก่ นายมานพ คงศักดิ์ นายอนุรักษ์ ขาววัต และนายสุรศักดิ์ ฟองหิรัญศิริ
มานพ หนึ่งในทีมผู้ชนะเลิศสายสามัญ กล่าวว่า หุ่นยนต์ขจัดคราบสกปรกบนผิวน้ำ มีคุณสมบัติพิเศษในการขจัดคราบน้ำมัน บนผิวน้ำในลำคลองต่างๆ ของเขตเมือง ที่มีปัญหาน้ำเน่าเสียจากคราบน้ำมันปกคลุมผิวน้ำ ทำให้ออกซิเจนไม่สามารถผ่านลงไปในน้ำได้ ซึ่งหุ่นยนต์ดังกล่าวมีขนาดเพียง 40×30 เซนติเมตร สามารถนำลงไปปฏิบัติหน้าที่ในคลองขนาดเล็กได้ โดยภายใน 1 ตารางเมตร สามารถขจัดคราบน้ำมันได้ 100 มิลลิลิตร และเครื่องยนต์ยังใช้พลังงานจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ร่วมกับแบตเตอรี่ จึงประหยัดพลังงานด้วย โดยเครื่องดังกล่าวมีต้นทุนอยู่ที่ 5,500 บาท
อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ดังกล่าวอยู่ระหว่างการพัฒนาเพิ่มเติมไปสู่การนำขยะน้ำมันที่เก็บได้ตามลำคลองต่างๆ มาผ่านกระบวนการย่อยโดยจุลินทรีย์ให้น้ำมันกลายเป็นปุ๋ย เพื่อให้กลับคืนสู่ธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย ไม่กลายเป็นขยะอีก ซึ่งในอนาคตอาจพัฒนาจนสามารถนำไปใช้เก็บคราบน้ำมันในทะเลได้ด้วย
“ปัจจุบันการกำจัดขยะตามลำคลอง ทางเทศบาลจะใช้คนลงมาเก็บ ซึ่งทีมงานเห็นว่าเราสามารถพัฒนาหุ่นยนต์ให้มาปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ได้ เพื่อช่วยลดอันตรายจากสิ่งสกปรกให้กับคน และสามารถขจัดคราบน้ำมันได้เป็นอย่างดี เพื่อให้แม่น้ำลำคลองกลับมาสะอาดขึ้น” ตัวแทนทีมชนะเลิศกล่าว
“ผมอยากให้ทุกคนช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะแหล่งน้ำจืดที่เราจำเป็นต้องใช้อุปโภคบริโภค ถ้าเน่าเสียหมด ต่อไปน้ำจืดจะไม่เพียงพอ เราสามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของน้ำเน่าเสียได้ และทำให้กลับมาเป็นน้ำที่สะอาดเหมือนเดิม ด้วยการลดทิ้งขยะในลำคลอง และหุ่นยนต์นี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขจัดคราบน้ำมัน เพื่อให้ทุกคนได้กลับมามีน้ำใช้ที่สะอาดต่อไป”
เครื่องล้างทำความสะอาดหอยนางรม ครองที่ 1 สายอาชีพ
สำหรับสิ่งประดิษฐ์ของ Makers ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศสายอาชีพ ได้แก่สิ่งประดิษฐ์เครื่องล้างทำความสะอาดหอยนางรม เป็นฝีมือการคิดค้นของ 2 นักประดิษฐ์ คือ นายวัฒนพงศ์ เพชรรัตน์ นักศึกษาชั้น ปวช. 2 และนายนูรุดดีน เจะปิ นักศึกษาชั้น ปวช.1 ทั้งคู่มาจาก วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี
วัฒนพงศ์ เล่าว่า หอยนางรมเป็นสินค้าขึ้นชื่อของ จ.สุราษฎร์ธานี สร้างอาชีพและรายได้ให้คนท้องถิ่นมาโดยตลอด แต่ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าการทานหอยนางรมดิบทำให้เกิดอาการท้องเสีย ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุให้คิดค้นเครื่องล้างหอยนางรมขึ้นมาแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่การล้างแค่เปลือกหอย แต่เป็นการล้างถึงข้างใน และสามารถขจัดแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของอาการท้องเสียได้
โดยกระบวนการทำงานของเครื่องมือดังกล่าวมีขั้นตอนดังนี้ 1. เครื่องจะดูดน้ำขึ้นมาแล้วสเปรย์น้ำสร้างเป็นคลื่น 2. เมื่อเกิดคลื่นหอยนางรมจะอ้าปากโดยธรรมชาติและมีน้ำวนล้างสิ่งสกปรกในระหว่างที่หอยนางรมอ้าปาก และ 3. หลังจากนั้นน้ำที่ล้างสิ่งสกปรกในตัวหอยนางรม จะผ่านบ่อกรอง 3 บ่อ เพื่อกรองของเสีย สร้างออกซิเจน ดักจับสิ่งสกปรกและฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ทำให้น้ำสะอาด และวนนำกลับมาใช้ทำความสะอาดหอยนามรมได้ต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจคือ กระบวนการดังกล่าวได้ผ่านการทดสอบจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และได้รับการรับรองว่าสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้จริง รวมถึงได้ให้ผู้บริโภคทดสอบรสชาติของหอยนางรม ทั้งที่ผ่านกระบวนการล้างและที่ไม่ผ่านกระบวนการล้าง ปรากฏว่าไม่สามารถแยกความแตกต่างของรสชาติได้ ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ สามารถช่วยลดปัญหาสุขภาพให้กับผู้บริโภคที่นิยมทานหอยนางรมสดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเครื่องดังกล่าวยังสามารถล้างทำความสะอาดหอยอื่นๆ นอกจากหอยนางรมได้ด้วย อีกทั้งมีขนาดไม่ใหญ่ ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ในร้านอาหารทั้งร้านขนาดใหญ่ และร้านเล็กๆ
อย่างไรก็ตาม เครื่องดังกล่าวใช้เงินลงทุนประมาณ 4-5 หมื่นบาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง แต่หากได้รับการพัฒนาปรับปรุงต่อไป อาจมีต้นทุนที่ลดลง หรืออาจพัฒนาต่อยอดไปในระดับอุตสาหกรรมได้
…เห็นไอเดียเด็ดๆ ของเด็กไทยแล้วน่าปลื้มใจไม่น้อย เพราะไม่เพียงแต่สามารถนำไปพัฒนาปรับปรุงเพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์ แต่ยังเป็นไอเดียที่พัฒนามาจากความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นและสุขภาพของคนในชุมชนด้วย ซึ่งในท่ามกลางปัญหาวิกฤตฝุ่นละอองเป็นพิษของคนกรุงเทพฯในขณะนี้ ความคิดดีๆของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอย่างนี้ ก็ช่วยจุดประกายความหวังต่อการแก้ปัญหาในอนาคตขึ้นมาได้บ้าง…