ชงกพช.ปรับหลักเกณฑ์ใหม่โรงไฟฟ้าชุมชน เดือนพ.ย.นี้ คาดเปิดรับซื้อไฟฟ้าได้ ม.ค.64

1956
- Advertisment-

กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในเดือน พ.ย.2563 นี้เพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าภายใต้โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากใหม่ ทำให้ต้องเลื่อนกำหนดเปิดโครงการอีกรอบไปเป็นเดือน ม.ค. 2564 โดยหลักเกณฑ์ใหม่จะไม่แบ่งประเภทเป็นQuick win แต่อาจใช้วิธีประมูล พร้อมให้วางแบงค์การันตีกับทั้งภาครัฐเพื่อป้องกันการดัมพ์ราคาประมูล และกับชุมชน 5-6 พันบาทต่อไร่ ป้องกันการทิ้งโครงการ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ว่า การกำหนดหลักเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชนใหม่จะแล้วเสร็จในสิ้นเดือน ต.ค. 2563 นี้ โดยเบื้องต้นมีแนวโน้มจะใช้วิธีการประมูล เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ประกอบการจะแข่งขันกันให้โครงการเกิดขึ้นได้จริง

ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีพพ.

ด้าน นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯอาจต้องเลื่อนประกาศรับซื้อไฟฟ้า จากภายในสิ้นปีนี้ เป็นเดือน ม.ค. 2564 แทน เนื่องจากจะต้องเสนอหลักเกณฑ์ใหม่ให้ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะประชุมในเดือนพ.ย. 2563 นี้พิจารณา เพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์เดิมที่ กพช.เคยมีมติ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2563 จากนั้นคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ก็จะออกระเบียบการรับซื้อไฟฟ้า และเปิดประชาพิจารณ์ ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 15 วัน

- Advertisment -

สำหรับหลักเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชนที่ปรับปรุงใหม่นั้น จะไม่มีการแบ่งประเภทเป็นแบบ Quick win และประเภททั่วไป แต่ยังคงกำหนดให้ชุมชนได้สัดส่วนการถือหุ้นไม่ต่ำกว่า10% ของเงินลงทุน และยังคงให้ใช้กรอบราคารับซื้อไฟฟ้าตามต้นทุนที่แท้จริง (Feed in Tariff -FiT )เดิม ทั้งนี้หากใช้วิธีการประมูลจะทำให้เกิดการแข่งขันและราคา FiTอาจลดลงได้ และไม่เป็นภาระค่าไฟฟ้ากับประชาชนมากนัก

อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะใช้วิธีการประมูลเข้าร่วมโครงการหรือไม่ ซึ่งหากใช้วิธีการประมูล ก็จะต้องพิจารณาว่าจะแยกประมูลตามประเภทเชื้อเพลิงระหว่างกลุ่มชีวมวลและก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน หรือไม่ เนื่องจากทั้งสองกลุ่มมีการใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน แต่ที่สำคัญจะต้องพิจารณาบทลงโทษป้องกันกรณีผู้ประประกอบการดัมพ์ราคาประมูล โดยอาจให้วางแบงค์การันตีกับภาครัฐ ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะกำหนดวงเงินให้สูงกว่าการวางหลักประกันในโครงการโรงไฟฟ้าของผู้ประกอบการรายเล็กมาก(VSPP)หรือไม่ เพื่อป้องกันการทิ้งโครงการ รวมทั้งอาจจะต้องให้วางแบงค์การันตีกับวิสาหกิจชุมชนด้วย เบื้องต้นมีแนวคิดจะให้วางแบงค์การันตีประมาณ 5-6 พันบาทต่อไร่ โดยหากโรงไฟฟ้าผลิต 6 เมกะวัตต์ จะต้องใช้พื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ ก็จะเท่ากับต้องวางแบงค์การันตี 5-6 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ เป็นต้น

นอกจากนี้กำลังพิจารณาด้วยว่าจะให้ผู้ประกอบการแต่ละรายสามารถยื่นข้อเสนอได้กี่โครงการ เบื้องต้นมีแนวคิดจะให้ยื่นได้ 3-5 โครงการต่อราย และในหลักเกณฑ์ใหม่จะไม่มีการกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องส่งรายได้เข้ากองทุน(เดิมยังไม่มีการกำหนดชนิดกองทุน) 25 สตางค์ต่อหน่วย แต่จะให้ผู้ประกอบการและชุมชนจะต้องไปตกลงผลประโยชน์ตอบแทนที่จะคืนให้ชุมชนกันเอง

อย่างไรก็ตามโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนในครั้งนี้ จะเป็นการเปิดโครงการตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา

 

 

Advertisment