คาด สัปดาห์หน้า กบง.ตรึงราคา LPG 423 บาทต่อ ถึง ธ.ค. 2567 หลังประชาชนยังเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม

169
- Advertisment-

คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เตรียมเปิดประชุมสัปดาห์หน้า พิจารณาทบทวนราคา LPG ที่จะหมดอายุการตรึงราคาที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ในวันที่ 30 ก.ย. 2567 นี้ คาด กบง. ตรึงราคาเดิมต่อไปอีก 3 เดือน ถึง ธ.ค. 2567 นี้ เหตุประชาชนยังเดือดร้อนจากภัยพิบัติน้ำท่วม และเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ จำเป็นต้องช่วยประชาชนต่อไปก่อน ขณะที่กองทุนน้ำมันฯ ยังมีแรงช่วยเหลือได้ หลังจากบัญชี LPG กลับมามีรายรับเป็นบวกเพียงเล็กน้อย 4.24 ล้านบาทต่อวัน โดยที่ผ่านมากองทุนฯ ใช้เงินพยุง LPG รวมแล้ว 47,455 ล้านบาท  

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน จะเปิดประชุมในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาวาระสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องมาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่ราคา 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ซึ่งจะสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 30 ก.ย. 2567 นี้

ทั้งนี้เบื้องต้นมีแนวโน้มว่า กบง. อาจจะพิจารณาตรึงราคาดังกล่าวต่อไปอีกประมาณ 3 เดือน หรือถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2567 นี้ เนื่องจากยังไม่มีเหตุผลที่ต้องปรับขึ้นราคา เพราะว่าขณะนี้ประชาชนยังเดือดร้อนจากภัยพิบัติน้ำท่วม รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ นอกจากนี้ราคา LPG โลกยังไม่ได้ขยับขึ้นสูงเกินกว่าจะรับได้ โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน สูงขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. 2567 ที่ราคาอยู่ที่ 580 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน

- Advertisment -

อย่างไรก็ตามการตรึงราคา LPG ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัมดังกล่าว เกิดจากคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้นำเงินในบัญชี LPG ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มาช่วยพยุงราคา LPG ไว้ 3.86 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 25.87 บาทต่อกิโลกรัม หรือเท่ากับราคาที่รัฐตรึงไว้ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม

โดยการนำเงินไปพยุงราคา LPG ดังกล่าวนี้ ส่งผลให้เงินในบัญชี LPG ไหลออกวันละ 41.69 ล้านบาท แต่เนื่องจากยังมีรายได้จากการหารเฉลี่ยต้นทุนของผู้ค้า LPG ทำให้บัญชี LPG มีรายรับเข้ามา 45.92 ล้านบาทต่อวัน ดังนั้นโดยรวมบัญชี LPG ยังถือว่ามีรายรับเข้ามาเหลือสุทธิวันละ 4.24 ล้านบาทต่อวัน ส่วนกรอบวงเงินชดเชยราคา LPG ที่ กบน. กำหนดให้ใช้ได้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาทนั้น ปัจจุบันใช้เงินไปแล้ว 47,455 ล้านบาท และยังเหลือเงินใช้ได้อีก 2,545 ล้านบาท และคาดว่าจะใช้ได้ถึงปี 2568 เนื่องจากบัญชี LPG ยังมีรายรับเข้ามาทุกวันทำให้สามารถใช้ตรึงราคาต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ราคา LPG โลกโดยปกติราคาจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงตั้งแต่เดือน ต.ค. ของทุกปี เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งส่งผลให้ประเทศในยุโรปมีความต้องการ LPG เพื่อสร้างความอบอุ่นมากขึ้น และทำให้ราคาขยับสูงขึ้น ซึ่งในปี 2567 นี้คาดว่าหากราคาปรับเพิ่มขึ้นจริง ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 700 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งกองทุนฯ ก็ยังคงสามารถรับมือกับระดับราคาที่ปรับขึ้นได้อยู่ แต่หลังจากผ่านพ้นปี 2567 ไปแล้ว คงต้องรอดูสถานการณ์โลก รวมถึงเงินกองทุนน้ำมันฯ และปัจจัยต่างๆ ที่กระทบต่อราคา LPG อีกครั้ง ว่าควรพิจารณาปรับราคาหรือไม่ต่อไป

สำหรับสถานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยรวมที่รายงานโดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ณ วันที่ 15 ก.ย. 2567 พบว่า กองทุนน้ำมันฯ ยังคงทยอยติดลบลดลงเหลือ -103,347 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม -55,892 ล้านบาท และมาจากบัญชี LPG ติดลบรวม -47,455 ล้านบาท

Advertisment