คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คาดว่าจะจัดทำหลักเกณฑ์ราคาอ้างอิงการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับผู้ประกอบการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) รายใหม่ให้แล้วเสร็จเพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( กพช.) อนุมัติในการประชุมเดือน ธ.ค. 64 นี้ ซึ่งจะช่วยให้ โรงไฟฟ้าหินกองขนาด 1,400 เมกะวัตต์ที่จะนำเข้าLNG ปริมาณ 1.4 ล้านตันต่อปี สามารถลงนามในสัญญาระยะยาวกับคู่ค้าได้ตามแผน
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน( กกพ.) เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์ราคาอ้างอิงการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับผู้ประกอบการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) รายใหม่ ทั้งที่จะนำเข้ามาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมตัวเอง และทั้งนำเข้าเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าขายเข้าระบบไฟฟ้าของประเทศ จะดำเนินการได้แล้วเสร็จ และทันเสนอที่ประชุม กพช.ภายในเดือน ธ.ค. 2564 อย่างแน่นอน
สำหรับเกณฑ์ราคาอ้างอิงฯ ดังกล่าวจะมีทั้ง ราคาอ้างอิงก๊าซธรรมชาติเหลว แบบราคาตลาดจร (Spot LNG ) และแบบสัญญาระยะยาวโดยราคาอ้างอิงแบบ Spot จะเป็นราคาตามตลาดโลก ที่น่าจะประกาศได้วันต่อวัน แต่ในส่วนของราคาอ้างอิง LNG แบบสัญญาระยะยาว จะต้องพิจารณาถึงปริมาณและราคาก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและจากประเทศเมียนมาประกอบร่วมด้วย
โดยการนำเข้าก๊าซฯมาผลิตไฟฟ้าไม่ควรมีราคาสูงเกินราคาอ้างอิง เพราะจะเป็นการผลักภาระต้นทุนไปรวมอยู่ในค่าไฟฟ้าของผู้บริโภค
ทั้งนี้คาดว่าโรงไฟฟ้าใหม่ที่ผลิตและขายไฟฟ้าเข้าระบบที่จะใช้หลักเกณฑ์ราคาอ้างอิงการนำเข้า LNG ของ กกพ.เป็นโรงแรก คือ โรงไฟฟ้าหินกอง ของ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และโรงไฟฟ้าใหม่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในอนาคต ที่ยังไม่มีการลงนามซื้อขายก๊าซฯมาก่อน
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center-ENC ) รายงานว่า ปัจจุบัน บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด(HKH) ซึ่ง ราช กรุ๊ป และ กลุ่มกัลฟ์ฯ ถือหุ้นร่วมกัน และเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเป็น Shipper เพื่อจัดหา LNG ป้อนให้โรงไฟฟ้าหินกองโดยตรง จำนวน 1.4 ล้านตันต่อปี ยังไม่ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขาย LNG กับผู้ค้ารายใด เพราะกำลังรอความชัดเจนด้านหลักเกณฑ์ราคาอ้างอิงนำเข้า LNG จาก กกพ.ก่อน โดยผู้บริหารของราช กรุ๊ป เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าจะพร้อมทดสอบระบบนำเข้า LNG ล็อตแรก เพื่อทดลองใช้กับโรงไฟฟ้าหินกองได้ในปี 2566 ก่อนจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเข้าระบบจริงตามสัญญา โดยจะต้องผลิตไฟฟ้าเข้าระบบ(COD) เฟสแรก 700 เมกะวัตต์ ในวันที่ 1 มี.ค. 2567 และเฟส 2 อีก 700 เมกะวัตต์ COD วันที่ 1 ม.ค. 2568
