กลุ่ม ปตท. เปิดตัว “E-Bus” รถโดยสารพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่ผลิตในประเทศ ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ เสริมศักยภาพการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
วันนี้ (25 มกราคม 2565) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) พร้อมด้วย นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ร่วมเปิดตัวและส่งมอบ “E-Bus” รถโดยสารพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ผลิตขึ้นใหม่ในประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับส่งพนักงานในกลุ่ม ปตท. บุคลากรกระทรวงพลังงาน และประชาชนทั่วไปที่มาติดต่องาน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ปตท. เร่งพัฒนาและปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ทิศทางพลังงานในอนาคต ซึ่งจะมุ่งเน้นเทรนด์หลักที่สำคัญของโลก 2 ด้าน คือ Go Green และ Go Electric โดยจะยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนด้าน EV Value Chain ของกลุ่ม ปตท. ให้ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต และพร้อมพัฒนาเทคโนโลยีการใช้พลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
โดยที่ผ่านมา ปตท. ได้จับมือพันธมิตรทางธุรกิจ ในการพัฒนา EV Charging Station, EV Platform, การตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ทั้ง 4 ล้อ และ 2 ล้อ และประเภทอื่น ๆ
ดังนั้น การร่วมมือกับ EnCo ในการนำ E-Bus รุ่นใหม่ ซึ่งพัฒนานวัตกรรมตัวถังและโครงสร้างจากอลูมิเนียมสมัยใหม่ที่ผลิตในประเทศไทย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พร้อมระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารครบครัน สำหรับให้บริการรับส่งบุคลากรและประชาชนทั่วไปที่มาติดต่องานในกลุ่ม ปตท. ถือเป็นต้นแบบนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านพลังงานอนาคต ที่จะช่วยผลักดันระบบนิเวศการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตามทิศทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ และสอดรับกับวิสัยทัศน์ใหม่ “Powering Life with Future Energy and Beyond” ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังงานแห่งอนาคต
นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) กล่าวว่า EnCo ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานควบคู่ไปกับการส่งมอบบริการด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการบริหารจัดการอาคารสถานที่อย่างมีมาตรฐาน
การนำ E-Bus ที่พัฒนาโดย ARUN PLUSมาให้บริการทดแทนรถไฟฟ้าโดยสารเดิมภายในศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ เป็นความตั้งใจของ EnCo ที่ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเปิดพื้นที่ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ให้เป็น Sandbox ในการทดสอบการใช้งานรถโดยสารไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมจริง ซึ่งทาง ARUN PLUS สามารถนำผลการทดสอบตลอดจนข้อมูลการให้บริการต่างๆ ที่ได้ไปใช้ในการพัฒนารถโดยสารไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นได้ในอนาคต ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่ตอบโจทย์ทั้งด้านธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคมไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ EnCo ยังมีแผนนำนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ศูนย์ EnCo Terminal หรือ EnTer ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปีนี้เพื่อเป็นศูนย์รวมธุรกิจและบริการที่ตอบสนองต่อรูปแบบการทำงานของคนรุ่นใหม่ อาทิ Smart office ให้เช่า สถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ศูนย์การประชุมที่ทันสมัย ตลอดจน Shopping Mall และแหล่งรวมความบันเทิงสำหรับคนทุกวัย ซึ่ง EnCo ยังคงมองหาผู้ที่สนใจเช่าพื้นที่และร่วมเป็นเครือข่ายทางธุรกิจที่จะเติบโตไปพร้อมกัน และร่วมกันพัฒนาศูนย์ EnTer ให้เป็นจุดนัดพบอีกแห่งหนึ่งของคนไทย
นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) กล่าวว่า การลงทุนพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นยานยนต์สาธารณะ เช่น รถบัส รถจักรยานยนต์ หรือ เรือโดยสาร ล้วนเป็นการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งสาธารณะ ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างโอกาสให้กับผู้ผลิตในประเทศได้พัฒนาการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และ ระบบแบตเตอรี่ ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่การสร้างระบบขนส่งของไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับการพัฒนา E-Bus เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ ARUN PLUS ที่ต้องการตอบโจทย์การสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ประกอบ จัดจำหน่าย ตลอดจนการขายและให้บริการหลังการขาย ซึ่ง ARUN PLUS กำลังเดินหน้าหาเครือข่ายทางธุรกิจไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือเอกชน เพื่อพัฒนาตลาดยานยนต์ไฟฟ้าสาธารณะไปด้วยกัน
