กระทรวงพลังงาน ชูโมเดลหมู่บ้านตะเพินคี่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เป็นตัวอย่างความสำเร็จติดตั้งระบบ Solar Home 

124
- Advertisment-


กระทรวงพลังงานผลักดันระบบ Solar Home ให้ทุกพื้นที่ได้มีไฟฟ้าใช้ เพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน หวังใช้โมเดลหมู่บ้านตะเพินคี่ ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เป็นตัวอย่างความสำเร็จ ติดตั้งให้พื้นที่ห่างไกลอื่นๆครอบคลุมทั่วประเทศ 

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา นายสิทธิชัย ณ นคร พลังงานจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วยนายฉัตรชัย คุณโลหิต ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน ได้นำคณะสื่อมวลชน เยี่ยมชม โครงการผลิตไฟฟ้าเพื่อชุมชนพึ่งพาตนเอง (Off Grid) ระบบผลิตไฟฟ้าเพื่อบ้านพักอาศัย (Solar Home) หมู่บ้านตะเพินคี่ ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติพุเตย โดยในเขตอุทยานแห่งชาติยังติดข้อกฎหมายทำให้ไม่สามารถดำเนินการติดตั้งสายส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าไปในพื้นที่ได้ อีกทั้งยังใช้งบประมาณสูง

สิทธิชัย ณ นคร พลังงานจังหวัดสุพรรณบุรี

หมู่บ้านตะเพินคี่เป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง ตั้งอยู่บนเทือกเขาในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติพุเตย มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 58 ครัวเรือน ซึ่งมีเลขที่บ้านถูกต้อง แต่ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่มีอยู่ ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขนาด 120 วัตต์ต่อครัวเรือน ตั้งแต่ปี 2548  แต่เริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้ไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตประจำวันที่จำเป็น  ทางสำนักงานพลังงานจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลวังยาว และอุทยานแห่งชาติพุเตย จึงเริ่มวางแผนและออกแบบการติดตั้งโซลาร์โฮมให้กับครัวเรือนในชุมชน ซึ่งถือเป็นการดำเนินงานตามนโยบายพลังงานเพื่อทุกคน (Energy for All) ของกระทรวงพลังงาน  และได้รับการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในปี 2564 วงเงิน 2.8 ล้านบาท เพื่อติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนขนาด 500 วัตต์ พร้อมอุปกรณ์ ครบทั้ง 58 ครัวเรือน ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการใช้พลังงานทดแทนทั้งหมู่บ้านเฉลี่ย 4.5 toe (ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ) ต่อปี

- Advertisment -

“การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าแบบโซลาร์โฮมที่หมู่บ้านตะเพินคี่ ช่วยให้คนในชุมชนมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอในชีวิตประจำวัน และทำให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนดีขึ้น เพิ่มโอกาสการเรียนรู้ ช่องทางการรับข้อมูลข่าวสาร และที่สำคัญไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของอุทยานแห่งชาติพุเตย เนื่องจากเป็นระบบที่ติดตั้งบนหลังคาไม่ได้ปักเสา โครงการนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงพลังงานในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน มุ่งขับเคลื่อนให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าถึงพลังงาน ส่งเสริมพลังงานสะอาดควบคู่กับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” นายสิทธิชัย กล่าว

นายฉัตรชัย คุณโลหิต ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน

ด้านนายฉัตรชัย คุณโลหิต ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวเสริมว่า จากการพิจารณาสภาพปัญหาสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของหมู่บ้านตะเพินคี่ พบว่าการส่งเสริมการติดตั้งระบบโซลาร์ผลิตไฟฟ้าระดับครัวเรือน ในรูปแบบ Solar Home มีความเหมาะสม ไม่กระทบกับกฎระเบียบของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และเพียงพอต่อการใช้งานในครัวเรือน ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิต อีกทั้ง หากคำนวณระยะเวลาคืนทุนจากการติดตั้งระบบในพื้นที่ที่ไม่มีสายส่งไฟฟ้า (Off-grid) ในวงเงิน 2.8 ล้าน แล้วนั้น คิดเป็นระยะเวลาคืนทุนเพียง 5 ปี 5 เดือน และหากเปรียบเทียบกับกรณีการขยายสายส่งไฟฟ้า การติดตั้งระบบ Solar Home ดังกล่าว สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการได้กว่า 6.5 ล้านบาท อีกทั้งยังไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อมและไม่ก่อปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ชายขอบจากการปักเสาตั้งสายอีกด้วย

ทั้งนี้กระทรวงพลังงานยังมีแนวทางที่จะขยายการติดตั้งระบบ Solar Home ให้ครอบคลุมพื้นที่ชุมชนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และไม่เหมาะที่จะสร้างสายส่ง ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างการนำเสนอเพื่อพิจารณาของบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อดำเนินการต่อไป 

Advertisment