กรมธุรกิจพลังงาน เดินหน้าเอาผิดปั๊มที่เติมน้ำมันกลายเป็นน้ำ เข้าแจ้งความ 2 ข้อหา สั่งผู้ค้ารายอื่นเร่งตรวจสอบการปนเปื้อนด่วน

244
- Advertisment-

รัฐมนตรีพลังงาน สั่งกรมธุรกิจพลังงาน เร่งเอาผิดปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี กรณีเติมน้ำมันกลายเป็นน้ำ หลังผู้เสียหายร้องเรียนพลังงานจังหวัด เล็งเพิกถอนใบอนุญาตเปิดปั๊ม ล่าสุดอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีแล้ว คาดโทษ 2 กระทง จำหน่ายน้ำมันไม่ได้มาตรฐาน และ น้ำมันไม่ได้คุณภาพ ย้ำผู้ค้าน้ำมันรายอื่นเร่งตรวจสอบการปนเปื้อนน้ำมันในถังเก็บและระหว่างขนส่ง ป้องกันความเสียหายต่อประชาชน

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ร้องเรียนกรณีเติมน้ำมันดีเซล B7 แต่กลายเป็นน้ำ ทำให้รถเกิดความเสียหาย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้นำรถกระบะฟอร์ด 4 ประตู เข้าเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่งบริเวณอำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 1,000 บาท ภายหลังการเติมน้ำมันรถมีอาการสั่นและกระตุก ดับ และมี สัญญาณเตือนขึ้นโชว์ที่หน้าปัดรถ  Water in fuel drain filter มีน้ำในถังน้ำมันและท่อกรอง จึงมีการทดสอบกดน้ำมันลงถัง ปรากฎว่ากลายเป็นน้ำไหลลงมาและมีเศษน้ำมันลอยบนน้ำเพียงเล็กน้อย เมื่อนำรถไปซ่อมประเมินราคาค่าเสียหาย 1.2 แสนบาท แต่เจ้าของปั๊มปฏิเสธความรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆ รวม 3 คันก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน ตัวเองจึงได้เข้าแจ้งความ พร้อมร้องเรียนไปยังพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี

ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า จากกรณีปัญหาการเติมน้ำมันแล้วกลายเป็นน้ำที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 นั้น ผมและเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยกระทรวงพลังงานได้รับทราบเรื่องผ่านทางพลังงานจังหวัดกาญจนบุรีว่าผู้เสียหายได้มาร้องเรียนเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567 ซึ่งพลังงานจังหวัดและกรมธุรกิจพลังงานได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่มาเป็นลำดับ

- Advertisment -

โดยเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2567 ท่านปลัดกระทรวงพลังงานได้แจ้งให้ผมทราบว่าเจ้าหน้าที่พลังงานจังหวัดกาญจนบุรีได้แจ้งความดำเนินคดีกับทางปั๊มน้ำมันต้นเหตุแล้ว เพราะเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง และมีคลิปวีดีโอเป็นหลักฐานชัดเจน ส่วนประชาชนที่ได้รับความเสียหายทั้งที่เป็นข่าวและที่ไม่เป็นข่าวก็มีสิทธิแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชนได้ด้วย เพราะเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนเป็นวงกว้าง

ทั้งนี้ผมได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานตรวจสอบว่าจะสามารถเพิกถอนใบอนุญาตเปิดปั๊มน้ำมันแห่งนี้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องแก้ไขกฎหมายกันต่อไปเพราะมีการกระทำความผิดของปั๊มน้ำมันในลักษณะที่เป็นการเอาเปรียบหรือฉ้อโกงประชาชนมาหลายครั้งแล้ว

“ขอให้มั่นใจว่าผมและกระทรวงพลังงานจะไม่ยอมให้ประชาชนถูกเอาเปรียบหรือถูกโกงแบบนี้อย่างเด็ดขาดครับ”

ล่าสุด นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ระบุว่า จากกรณีการเติมน้ำมันแล้วกลายเป็นน้ำในพื้นที่ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี กรมธุรกิจพลังงานได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและเก็บตัวอย่างน้ำมันมาตรวจสอบคุณภาพ และแจ้งความดำเนินคดีกับปั๊มน้ำมันดังกล่าวในความผิดฐานการจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีลักษณะหรือคุณภาพแตกต่างจากที่อธิบดีประกาศกำหนด ตามข้อกฎหมายด้านคุณภาพและความปลอดภัย ที่หากพบน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้คุณภาพ มีโทษตามมาตรา 48 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้คุณภาพ มีปริมาณเกิน 200 ลิตร จะเข้าข่ายเป็นการปลอมปนน้ำมันมีโทษตามมาตรา 49 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้กรมฯ ได้กำชับผู้ประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมัน ให้ตรวจสอบจุดเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดกรณีน้ำปนในน้ำมัน โดยการปนเปื้อนของน้ำในน้ำมันดังกล่าวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การปนเปื้อนของน้ำระหว่างขั้นตอนการขนส่งหรือจัดเก็บ และการรั่วไหลของน้ำเข้าไปในถังน้ำมัน ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันจะต้องมีการบริหารจัดการน้ำมันในถังเก็บน้ำมันให้เหมาะสม ตรวจวัดน้ำก่อนการรับน้ำมันจากรถขนส่ง และตรวจวัดปริมาณน้ำในถังเก็บน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและทรัพย์สินของประชาชน

Advertisment