กฟผ. และกรมเจ้าท่า ลงนาม MOU นำร่องศึกษาวิจัยและพัฒนาท่าเรือพระราม 5 และท่าเรือพระราม 7 สู่ท่าเรืออัจฉริยะ ผลักดันการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการคมนาคมขนส่ง และการบริหารจัดการพลังงาน โดยมีกรอบระยะเวลา 3 ปี ภายในวงเงินประมาณ 19 ล้านบาท
วันนี้ (16 กรกฎาคม 2563) นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านวิชาการและพัฒนานวัตกรรม กับนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เพื่อร่วมกันศึกษาวิจัยและพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ นำร่องที่ ท่าเรือพระราม 5 และพระราม 7 โดยมีกรอบระยะเวลา 3 ปี ภายในวงเงินประมาณ 19 ล้านบาท ณ ห้องกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง จ.นนทบุรี
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่า ในฐานะองค์กรหลักในการกำกับดูแลและส่งเสริมการพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี มีนโยบายในการปรับปรุงและพัฒนาท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา รอบพื้นที่กรุงเทพมหานครให้มีความทันสมัยในการบริการ เพื่อยกระดับการเดินทางทางน้ำ เปิดประตูสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ความร่วมมือกันในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานระบบการขนส่งทางน้ำของประเทศไทย
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. และกรมเจ้าท่า จะร่วมกันศึกษาและพัฒนาท่าเรือ โดย กฟผ. ได้ร่วมออกแบบและจะนำรูปแบบเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสม มาปรับปรุงพัฒนาให้เป็นท่าเรืออัจฉริยะ ที่มีความทันสมัย สะอาด ปลอดภัย และมีพื้นที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ สามารถรองรับการใช้งานร่วมกันของคน ทุกกลุ่ม โดยจะนำร่องปรับปรุงที่ท่าเรือพระราม 5 และท่าเรือพระราม 7 ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ในจังหวัดนนทบุรีที่อยู่ใกล้สำนักงานใหญ่ กฟผ. ด้วยศักยภาพและประสบการณ์ของทั้ง 2 หน่วยงาน จะช่วยยกระดับ ทั้งด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ และการบริหารจัดการพลังงาน สอดคล้องกับนโยบาย Smart City ที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ร่วมสร้างความยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ
สำหรับ แนวทางการพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ จะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยออกแบบอ้างอิงจากอัตลักษณ์สถาปัตยกรรมตามรัชสมัย ควบคู่กับการออกแบบตามแนวคิดการประหยัดพลังงาน ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ต่าง ๆ อาทิ ป้ายแนะนำเส้นทางการเชื่อมต่อรถโดยสาร ทางลาดคนพิการ และห้องน้ำอัจฉริยะ ที่ทั้งสะอาดและสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงจุดบริการชาร์จแบตเตอรี่มือถือ และ Free Wi-Fi ด้วยแนวคิดท่าเรือที่ไม่ใช่เพื่อการเดินทางเพียงอย่างเดียว แต่บุคคลทั่วไปสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อีกด้วย