การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือPEA พร้อมลดค่าไฟฟ้าประชาชน 3% แบบอัตโนมัติในบิลค่าไฟเดือน เม.ย.-พ.ค.-มิ.ย. 2563 โดยทั้งสองหน่วยงานต้องร่วมแบกภาระรวมกันประมาณ 4,950ล้านบาท ( กฟน.ประมาณ 1,400 ล้านบาท และ PEAประมาณ 3,560 ล้านบาท) ส่วนมาตรการขยายเวลาชำระค่าไฟฟ้า 6 เดือน ทาง PEA กำหนดให้บิลงวดเดือนเม.ย.ค้างจ่ายได้ถึงเดือนต.ค. และบิลเดือน พ.ค.ค้างจ่ายได้ถึงพ.ย. 2563 ขณะที่ ให้ทยอยแบ่งชำระค่าไฟฟ้า งวดเม.ย.และ พ.ค. เป็น 6 เดือน
นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) เปิดเผยถึงกรณีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2563 ให้ลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนทุกประเภท 3% ของค่าไฟฟ้าเป็นเวลา3เดือน ว่า กฟน.จะปรับลดค่าไฟฟ้า 3% ให้กับประชาชนทุกคนแบบอัตโนมัติในใบเสร็จ(บิล)เรียกเก็บเงินงวดเดือนเม.ย.,พ.ค.และมิ.ย.2563 โดยคาดว่าการปรับลดค่าไฟฟ้าดังกล่าว กฟน.จะต้องเป็นผู้แบกรับภาระเองประมาณ 1,400 ล้านบาท
ส่วนมาตรการที่ ครม. ให้ผ่อนชำระค่าไฟฟ้าได้ 2 เดือน(เม.ย.-พ.ค.2563) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 5 ซึ่งเป็นกิจการเฉพาะอย่าง ได้แก่ โรงแรม อพาร์ทเมนท์ หอพัก เป็นต้นนั้น กฟน.มีแนวคิดจะให้ผ่อนชำระค่าไฟเดือน เม.ย.และ พ.ค. เป็น 6 งวด ส่วนในบิลเดือน มิ.ย.เป็นต้นไปผู้ใช้ไฟต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเต็มจำนวน โดยบวกรวมกับค่าไฟฟ้างวดแรกของเดือนมิ.ย.และพ.ค. 2563 ที่ทะยอยแบ่งจ่าย ไปจนกว่าจะครบจำนวน ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ในเดือนที่มีปัญหาเรื่องโควิด-19
โดยกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 5 ดังกล่าว ของ กฟน.มีทั้งสิ้น 3,477 ราย คิดเป็นค่าไฟฟ้าที่ต้องผ่อนชำระรวมในแต่ละเดือนประมาณ 760 ล้านบาท สำหรับแนวทางดังกล่าวยังต้องรอให้ผู้บริหารพิจารณาสรุปอีกครั้งเร็วๆนี้
ด้าน นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) กล่าวว่า PEA พร้อมลดค่าไฟฟ้า 3% ของบิลค่าไฟฟ้างวดเดือน เม.ย.-พ.ค. -มิ.ย. 2563 แบบอัตโนมัติในบิลค่าไฟฟ้า เช่นเดียวกัน โดยผู้ใช้ไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ และผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทมีสิทธิ์ได้รับเหมือนกันทุกราย ซึ่งคาดว่า PEA จะต้องแบกรับภาระการลดค่าไฟฟ้าดังกล่าวประมาณ 3,560 ล้านบาท
ส่วนมาตรการขยายเวลาชำระค่าไฟฟ้า 6 เดือนที่ให้สิทธิ์เฉพาะกิจการโรงแรมและกิจการที่อยู่อาศัยให้เช่า นั้น จะใช้วิธีขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟของงวด เม.ย.-พ.ย ไปถึงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2563 โดยผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มดังกล่าวจะต้องยื่นคำร้องขอขยายเวลาชำระค่าไฟฟ้าผ่านทางแอพพลิเคชั่นของ PEA ก่อน ซึ่งจะประกาศให้ประชาชนทราบต่อไป
ทั้งนี้มาตรการชำระค่าไฟฟ้าดังกล่าว ของ PEA คาดว่าจะมีผู้มีสิทธิ์ประมาณ 5,000 ราย และ PEA จะต้องใช้เงินกว่า 2,300 ล้านบาท เพื่อนำมาหมุนเวียน ทดแทนกรณีผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้าตรงเวลาตามปกติ เพราะได้รับสิทธิ์ขยายเวลาชำระค่าไฟฟ้าออกไป 6 เดือนตามมติ ครม.