คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) มีมติลดเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันส่งเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 3 ปี เพื่อบรรเทาภาระราคาน้ำมันแพง ยอมรับรายได้หดเหลือ 150 ล้านบาทต่อปี จากเดิมเก็บได้ 3,500 ล้านบาทต่อปี พร้อมปรับลดงบโครงการขอใช้เงินเพื่อส่งเสริมพลังงานทดแทนจาก 1 หมื่นล้านบาทต่อปี เหลือ 4 พันล้านบาทต่อปี เฉพาะโครงการปี 2565-2567 ยืนยันยังจัดสรรงบสำหรับโครงการส่งเสริมพลังงานทดแทนและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก 76 จังหวัด รวม 1,900 ล้านบาท ให้จังหวัดละ 25 ล้านบาทต่อไป
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ที่ประชุม กพช.มีมติลดเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันเพื่อส่งเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เป็นเวลา 3 ปี(2565-2567) โดยแบ่งเป็นในปี 2565 ปรับลดจาก 10 สตางค์ต่อลิตร เหลือ 0.005 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้เงินส่งเข้ากองทุนฯลดลงจาก 3,500 ล้านบาทต่อปี เหลือเพียง 145-150 ล้านบาทต่อปี ส่วนในปี 2566 และปี 2567 ให้ปรับลดเหลือ 0.05 บาทต่อลิตร ทั้งนี้เพื่อช่วยดูแลราคาน้ำมันในประเทศ
นอกจากนี้ได้กำหนดจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ฯใหม่สำหรับปี 2565-2567 โดยจะลดกรอบวงเงินสำหรับโครงการที่ขอใช้เงินเพื่อส่งเสริมพลังงานทดแทนลงจาก 10,000 ล้านบาทต่อปี เหลือ 4,000 ล้านบาทต่อปี และยืนยันในวงเงินดังกล่าวจะใช้จัดสรรให้กลุ่มที่ขอนำไปใช้เพื่อส่งเสริมพลังงานทดแทนและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก 76 จังหวัด(ยกเว้น กทม.) รวมเป็นวงเงิน 1,900 ล้านบาท ซึ่งจะให้โควต้าจังหวัดละ 25 ล้านบาทต่อไป