คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เร่งเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ เพื่อส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่มอีก 50 สตางค์ต่อลิตร ชดเชยกรณีกองทุนฯ นำเงิน 1 บาทต่อลิตรพยุงราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ในช่วงหมดมาตรการลดภาษีน้ำมันกลุ่มเบนซิน สิ้นเดือน ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา ในขณะที่เงินกองทุนฯ ติดลบกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า ภายหลังจากคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 มีมติให้ใช้กลไกเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1 บาทต่อลิตร เข้าพยุงราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน หลังสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันกลุ่มเบนซิน 1 บาทต่อลิตร เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2567 กองทุนฯ เร่งกลับมาเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ เพื่อส่งเข้ากองทุนฯ เพิ่มอีก 50 สตางค์ต่อลิตรแล้ว
โดยอัตราเรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯ เปลี่ยนแปลงดังนี้ กองทุนฯ เรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 อยู่ที่ 8.88 บาทต่อลิตร จากเดิมเก็บอยู่ 8.38 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เรียกเก็บ 2.30 บาทต่อลิตร จากเดิมเก็บอยู่ 1.80 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 เรียกเก็บ 0.95 บาทต่อลิตร จากเดิมเก็บอยู่ 0.45 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เรียกเก็บ 0.41 บาทต่อลิตร จากเดิมเก็บอยู่ 0.01 บาทต่อลิตรและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เรียกเก็บ 0.16 บาทต่อลิตร ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนราคาน้ำมันดีเซลนั้น ทางกองทุนฯ ยังใช้เงิน 4.62 บาทต่อลิตร เพื่อพยุงราคาไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึง 31 มี.ค. 2567
ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดที่รายงานโดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ณ วันที่ 28 ม.ค. 2567 พบว่ากองทุนฯ ยังคงติดลบเป็นจำนวน -84,349 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการนำเงินไปอุดหนุนราคาดีเซล ส่งผลให้บัญชีน้ำมันติดลบรวม -37,875 ล้านบาท และอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ทำให้บัญชี LPG ติดลบรวม -46,474 ล้านบาท
สำหรับราคาจำหน่ายน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน ณ วันที่ 5 ก.พ. 2567 ยังคงเป็นราคาที่เริ่มเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 2567 โดยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 37.55 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 35.78 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 35.44 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 35.59 บาทต่อลิตร, น้ำมันเบนซินออกเทน 95 อยู่ที่ 45.44 บาทต่อลิตร และดีเซลอยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร
ขณะที่ค่าการตลาดน้ำมันที่ผู้ค้าได้รับ ในวันที่ 5 ก.พ. 2567 ซึ่งรายงานโดย สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) พบว่า ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 2.51 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มเบนซินยังสูงอยู่ที่ประมาณ 3-3.5 บาทต่อลิตร โดยเฉลี่ยค่าการตลาดน้ำมันตั้งแต่ 1-5 ก.พ. 2567 อยู่ที่ 2.60 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่ควรได้ที่ 1.50-2 บาทต่อลิตร)
ส่วนความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันตลาดโลกล่าสุด ณ วันที่ 5 ก.พ. 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 78.58 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 72.35 เหรียญหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.07 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 77.49 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.16 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล