คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพิ่มกรอบวงเงินชดเชยราคา LPG อีก 3,000 ล้านบาท เป็น 45,000 ล้านบาท ท่ามกลางสถานะกองทุนฯ ติดลบกว่า 1.25 แสนล้านบาท พร้อมประชุมปรับลดการชดเชยราคาดีเซลลงจาก 0.32 บาทต่อลิตร หลังราคาน้ำมันโลกลดลง ลุ้นผู้ค้าน้ำมันปรับลดราคาจำหน่ายเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ กว่า 1 บาทต่อลิตร ในวันที่ 27 ก.ย. 2565
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่ผ่านมาได้พิจารณาปรับเพิ่มกรอบวงเงินสำหรับชดเชยราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ขึ้นอีก 3,000 ล้านบาท จากเดิมกำหนดให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยราคา LPG ได้ไม่เกิน 42,000 ล้านบาท โดยได้ปรับเพิ่มกรอบวงเงินขึ้นเป็น 45,000 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากราคา LPG ตลาดโลกยังทรงตัวระดับสูง ทำให้กองทุนฯ ต้องชดเชยราคา LPG อย่างต่อเนื่องจนเต็มกรอบวงเงินไปแล้ว
โดย ณ วันที่ 18 ก.ย. 2565 กองทุนฯ ใช้เงินชดเชยราคา LPG รวมทั้งสิ้น 42,346 ล้านบาท ส่วนราคา LPG ตลาดโลกยังสูงอยู่ที่ระดับ 640 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ส่งผลให้กองทุนฯ ต้องชดเชยราคาจำหน่ายปลีก LPG อยู่ที่ 7.65 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาจำหน่ายปลีกยังควบคุมไว้ที่ 408 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม
อย่างไรก็ตามในเดือน ต.ค. 2565 นี้ ราคา LPG ยังคงจำหน่ายเท่าเดิมที่ 408 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ซึ่งเป็นไปตามมติ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2565 ที่กำหนดให้ใช้ราคาดังกล่าวต่อไปอีก 1 เดือน (ในเดือน ต.ค. 2565) ภายหลังมาตรการปรับขึ้นราคา LPG เดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม สิ้นสุดในเดือน ก.ย. 2565 ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าการปรับขึ้นราคา LPG เดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม ดำเนินการมาต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 6 เดือนแล้ว ดังนั้นจึงต้องการชะลอผลกระทบให้ประชาชนต่ออีก 1 เดือนก่อน
สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ณ วันที่ 18 ก.ย. 2565 กองทุนฯ มีสถานะติดลบรวม 125,348 ล้านบาท ซึ่งมาจากการนำเงินไปชดเชยราคาน้ำมันรวม 83,002 ล้านบาท และการชดเชยราคา LPG รวม 42,346 ล้านบาท
ส่วนในด้านของราคาน้ำมันโลก ณ วันที่ 26 ก.ย. 2565 เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 91.81 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.09 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 77.90 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.84 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 85.23 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 0.92 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
โดยทิศทางราคาน้ำโลกปรับลดลง ขณะที่ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ประกาศค่าการตลาดดีเซลเฉลี่ย ณ วันที่ 1-26 ก.ย. 2565 อยู่ที่ 2.16 บาทต่อลิตร แต่ค่าการตลาดที่แท้จริงของผู้ค้าน้ำมัน ณ วันที่ 26 ก.ย. 2565 สำหรับกลุ่มน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 2.28 บาทต่อลิตร และกลุ่มเบนซินอยู่ที่ 2.9-3.9 บาทต่อลิตร
ดังนั้นในการประชุม กบน. ในวันที่ 26 ก.ย. 2565 นี้ อาจมีการปรับลดการชดเชยราคาดีเซลลง จากปัจจุบันชดเชยอยู่ 0.32 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ผู้ค้าน้ำมันอาจต้องปรับลดราคาจำหน่ายน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงเกินกว่า 1 บาทต่อลิตร ซึ่งจะมีผลในวันที่ 27 ก.ย. 2565 เพื่อให้ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันอยู่ในระดับที่ภาครัฐขอความร่วมมือไว้ที่ 1.40 บาทต่อลิตร