การประชุมกบง.วันนี้ (27พ.ค.2562)ไร้ข้อสรุปประเด็นภาระTake or Pay ที่เป็นเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายก๊าซระหว่าง กฟผ.กับปตท. กรณีการนำเข้าก๊าซLNGของกฟผ.1.5ล้านตันต่อปีเพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าตัวเองแต่ต้องลดการใช้ก๊าซที่ปตท.เป็นผู้จัดหาให้ ตามสัญญา
เงื่อนไขTake or Pay เป็นเงื่อนไขที่ผู้ซื้อก๊าซคือกฟผ.ต้องจ่ายเงินค่าก๊าซให้ปตท.ตามสัญญาไม่ว่าจะใช้ก๊าซหรือไม่ก็ตาม โดยก๊าซในส่วนที่ยังไม่ได้ใช้จะถูกเก็บเอาไว้เพื่อใช้ในภายหลัง
เรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็นปัญหา เมื่อ กฟผ. ต้องประมูลนำเข้าก๊าซLNG ปีละ1.5ล้านตัน เริ่มตั้งแต่ปี 2563 ไปจนถึงปี 2569 ตามนโยบายของรัฐบาลที่ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ มีมติ อนุมัติให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี2562
โดยนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ในวันที่ 27 พ.ค.2562 ซึ่งจะเป็นนัดสุดท้ายในฐานะที่เขายังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการเจรจาระหว่างกฟผ.และปตท. เกี่ยวกับประเด็นTake or Pay ดังกล่าวซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป ดังนั้น ที่ประชุม กบง.จึงให้ทั้งสองหน่วยงานกลับไปเจรจากันให้เกิดความชัดเจน และนำกลับมารายงานต่อที่ประชุม กบง.อีกครั้ง ที่อาจเป็นการนำเสนอต่อที่ประชุม กบง.ของรัฐบาลชุดใหม่
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน(Energy News Center-ENC)รายงานว่า ปัจจุบันปตท.มีสัญญาระยะยาวนำเข้าLNGให้ กฟผ.อยู่แล้วประมาณ 5.2 ล้านตันต่อปี และความต้องการใช้ไฟฟ้าไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น โดยหาก กฟผ.ไม่สามารถรับก๊าซจากปตท.ได้ตามสัญญา ปตท.ก็จะมีภาระ Take or กับPay กับคู่สัญญาที่ขายก๊าซLNG แทน